ในปัจจุบัน “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร” (Dietary Supplements) ได้กลายเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่ม Herbal/Traditional และ Non-Herbal/Traditional ตามข้อมูลของ Euromonitor International พบว่า ภาพรวม Dietary Supplements ในประเทศไทยมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นจาก 21,411.9 ล้านบาท ในปี 2018 เป็น 33,986.2 ล้านบาท ในปี 2023 และคาดว่าจะสูงถึง 47,596.0 ล้านบาท ในปี 2028 แนวโน้มการขยายตัวนี้ส่งสัญญาณที่ดีให้กับแบรนด์หรือผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าหรือขยายตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยเฉพาะในรูปแบบที่กำลังได้รับความนิยมและมีศักยภาพสูงอย่าง ซอฟเจล (Softgel)
TIBD R&I Partner พร้อมให้บริการ “softgel formulation” หรือ “Softgel Product Development” อย่างครบวงจร ด้วยความร่วมมือกับบริษัทในเครือที่เป็นโรงงานผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซอฟเจล (softgel development) ทั้งแบบเบสน้ำมันและรูปแบบ Paste (ผสมผงสารสกัดในน้ำมัน) รวมถึงมีประสบการณ์ในการพัฒนาเม็ดซอฟเจลหลากหลายชนิด เช่น ซอฟเจลใส, ซอฟเจลแบบทึบแสง ตลอดจนการใช้น้ำมันสกัดเย็นจากพืชหรือสมุนไพรต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบหลัก
ซอฟต์เจลคืออะไร? เหตุใดถึงได้รับความนิยม
“ซอฟต์เจล” หรือ Softgel Capsule เป็นรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่บรรจุสารอาหารในแคปซูลเจลาตินที่มีความยืดหยุ่นสูง (Soft Gelatin Capsule) โดยภายในอาจเป็นของเหลว (น้ำมัน) หรือกึ่งเหลว (Paste) ซึ่งให้ข้อดีหลายประการ:
- ดูดซึมง่าย – เมื่อรับประทาน แคปซูลเจลจะละลายได้ง่ายในระบบทางเดินอาหาร ปลดปล่อยสารออกฤทธิ์ (Active Ingredient) ได้รวดเร็ว และร่างกายสามารถดูดซึมได้ดี
- ป้องกันการเสื่อมสภาพ – แคปซูลซอฟเจลช่วยป้องกันแสง อากาศ หรือความชื้นที่อาจทำให้สารสำคัญเสื่อมสภาพได้
- กลืนง่าย – พื้นผิวเจลลื่น ลดความยากในการกลืนเมื่อเทียบกับเม็ดยาแข็ง
- ดูแลกลิ่นและรสชาติ – เหมาะสำหรับสารสกัดหรือส่วนผสมที่มีกลิ่นและรสจัด เช่น น้ำมันกระเทียม น้ำมันขิง น้ำมันขมิ้น ฯลฯ
ด้วยคุณสมบัติข้างต้น ซอฟเจลจึงได้รับความสนใจจากผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบายและประสิทธิภาพการดูดซึมสูง ตอบรับกระแสตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
แนวโน้มตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร: โอกาสในการทำซอฟต์เจล (Softgel)
เมื่อพูดถึงตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Dietary Supplements) ในภาพรวม ไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทยหรือระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่างก็มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากหลายปัจจัยสำคัญ ได้แก่
- กระแสรักสุขภาพที่ขยายวงกว้าง
- ผู้บริโภคทั่วโลกหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพและโภชนาการมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่ปัญหาด้านสุขภาพและความตระหนักต่อการป้องกันโรค (Preventive Health) ได้กลายเป็นเรื่องสำคัญ
- การค้นหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ให้สารสกัดเข้มข้น ดูแลร่างกายได้ตรงจุด และมีรูปแบบรับประทานสะดวก จึงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2. เทรนด์ “Natural & Clean Label”
-
- ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับส่วนผสม “จากธรรมชาติ” หรือปราศจากสารเคมีที่ไม่จำเป็น เห็นได้จากผลิตภัณฑ์สมุนไพรและน้ำมันสกัดเย็นต่าง ๆ ที่เริ่มเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง
- การพัฒนาซอฟเจลโดยผสานน้ำมันจากพืชและสมุนไพร (เช่น น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น, น้ำมันกระเทียม, น้ำมันขมิ้น) จึงตอบโจทย์ทั้งเทรนด์สุขภาพและกระแส “Clean Label” ที่มาแรง
3. รูปแบบการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ (Fast-paced Lifestyle)
- คนจำนวนมากต้องการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่รับประทานง่าย พกพาสะดวก และสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างต่อเนื่อง
- ซอฟเจล (Softgel) กลายเป็นตัวเลือกที่โดดเด่น เพราะนอกจากกลืนง่ายแล้ว ยังช่วยเก็บรักษาสารสกัดที่เป็นของเหลวหรือกึ่งเหลวให้พร้อมดูดซึมได้ดี
4. การขยายตัวของตลาดผู้สูงวัยและกลุ่มเฉพาะ
- ประชากรสูงอายุ (Aging Population) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และต้องการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยบำรุงข้อเข่า กระดูก ระบบไหลเวียนโลหิต หรือระบบภูมิคุ้มกัน
- ซอฟเจลที่บรรจุน้ำมันโอเมก้า-3 จากปลา, Flaxseed, หรือสมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ สามารถตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มนี้ได้ดี
5. นวัตกรรมในกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์
- โรงงานผู้ผลิตหลายรายได้พัฒนาเทคโนโลยีซอฟเจลให้มีความทนทานต่อความชื้น อากาศร้อน หรือปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลให้สารสำคัญเสื่อมคุณภาพ
- การใช้เจลาตินแบบใสหรือแบบสีทึบ ช่วยเพิ่มความหลากหลายในด้านการสื่อสารแบรนด์ (Branding) และการควบคุมแสงที่อาจทำให้สารสกัดเสื่อมสภาพ
- ผู้บริโภคเองก็ยินดีจ่ายเพิ่มขึ้น หากเชื่อมั่นในคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์
โดยสรุปแล้ว การผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรูปแบบซอฟเจล (Softgel) ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้แบรนด์โดดเด่นในตลาดที่แข็งขันสูงในปัจจุบัน เนื่องจากตอบรับเทรนด์ด้านสุขภาพ ความสะดวกสบาย และความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ “ได้ผลจริง” ของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างลงตัว.
บริการพัฒนาสูตร Softgel กับ TIBD R&I Partner
- ความเชี่ยวชาญในการออกแบบสูตรซอฟเจล (Softgel Formulation)
- เบสน้ำมัน (Oil-based): เหมาะสำหรับสารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำมัน เช่น น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น (Virgin Coconut Oil), น้ำมันงา, น้ำมัน Flaxseed, น้ำมันเทียนดำ (Black Cumin), น้ำมันใบหูเสือ, น้ำมันขมิ้น ฯลฯ
- รูปแบบ Paste (Oil + Powder): สำหรับเคสที่ต้องการใส่สารสกัดผง (Powder Extract) ร่วมกับน้ำมัน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดูดซึมหรือเพิ่มสารสำคัญได้หลากหลายชนิดในเม็ดเดียว
- ประสบการณ์หลากหลายในน้ำมันสมุนไพรและพืชเศรษฐกิจ
ด้วยประสบการณ์ในการทำงานกับ น้ำมันสกัดเย็นคุณภาพส่งออก (Cold Pressed Oil) และน้ำมันจากสมุนไพรหลากชนิด เราจึงสามารถ
- เลือกสรรแหล่งวัตถุดิบ (Raw Material) ที่มีคุณภาพสูงและมีมาตรฐาน
- ออกแบบ softgel formulation ให้คงประสิทธิภาพของสารสำคัญ ไม่ให้เสื่อมสภาพง่าย และให้โอกาสการดูดซึมสูงสุด
- โรงงานผู้ผลิต Softgel มาตรฐานสูง
บริษัทในเครือของ TIBD R&I Partner ที่รับผลิต เม็ดซอฟเจลได้มาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) หรือเทียบเท่าสากล
- รองรับการผลิตจำนวนมาก (Mass Production) หรือการผลิตขนาดเล็ก (Pilot Scale) ตามความต้องการของแบรนด์
- รูปแบบแคปซูลที่หลากหลาย: เช่น แคปซูลเจลาตินใส, แคปซูลสีทึบ, แคปซูลสีกันแสง, หรือเม็ดซอฟเจลที่มีขนาดต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับปริมาณสารสำคัญ
- กระบวนการวิจัยและพัฒนา (R&I Lab Testing)
- พัฒนาสูตรต้นแบบ (Prototype): คัดสรรชนิดน้ำมันและสารสกัด, ปรับสัดส่วนสารอิมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier) หรือสารเพิ่มการดูดซึม (Enhancer) ให้เหมาะสม
- Stability Test: ทดสอบความคงตัวของสารสำคัญในระยะยาว (Shelf Life) ไม่ให้เหม็นหืนหรือเสื่อมสภาพ
- Compatibility Test: ตรวจสอบปฏิกิริยาระหว่างน้ำมัน สารสกัด และวัสดุแคปซูล
- Quality Assurance (QA) & Quality Control (QC): กำหนดมาตรฐานสำหรับการผลิตจริงทุกล็อต
- วางแผนต้นทุนและการตลาด (Go-to-Market)
- วิเคราะห์ต้นทุน (Cost Structure): ประเมินต้นทุนวัตถุดิบ กระบวนการผลิต และบรรจุภัณฑ์เพื่อกำหนดราคาขายที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
- กลยุทธ์แบรนด์ (Brand Strategy): ช่วยให้คำปรึกษาเรื่อง Positioning และการสื่อสารจุดขาย (USP) ของซอฟเจลที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเน้นสมุนไพรไทย ออร์แกนิค หรือเทรนด์สุขภาพเฉพาะทาง
ตัวอย่างกลุ่มสารสกัดหรือน้ำมันที่นิยมทำเป็นซอฟต์เจล
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น (Virgin Coconut Oil)
ช่วยบำรุงสุขภาพผิวและระบบขับถ่าย มี MCT (Medium Chain Triglycerides) ที่ดูดซึมง่าย
น้ำมันขิง (Ginger Oil)
ลดอาการท้องอืด คลื่นไส้ และเสริมการเผาผลาญ
น้ำมันกระเทียม (Garlic Oil)
ช่วยลดคอเลสเตอรอล ต้านอนุมูลอิสระ บำรุงระบบหัวใจและหลอดเลือด
น้ำมันขมิ้น (Turmeric Oil)
มีสารเคอร์คูมิน (Curcumin) ช่วยต้านการอักเสบและเสริมภูมิคุ้มกัน
โอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรูปแบบ Softgel
ด้วยศักยภาพการเติบโตของตลาดอาหารเสริมในไทย ทั้งในกลุ่มสมุนไพรและสารสกัดสมัยใหม่ การเลือกทำ เม็ดซอฟต์เจล (Softgel) ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่สร้างความแตกต่างและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกน้ำมันหรือสารสกัดชนิดพิเศษเพื่อเจาะจงสรรพคุณที่ผู้บริโภคต้องการ
หากคุณกำลังมองหา “บริการพัฒนาสูตรซอฟต์เจล (softgel development)” หรือ “softgel formulation” เพื่อออกสู่ตลาดในรูปแบบ “เม็ดซอฟเจล” ที่ได้มาตรฐาน พร้อมกับการวางแผนการผลิต ต้นทุน และกลยุทธ์การตลาด TIBD R&I Partner คือพาร์ทเนอร์ที่จะทำให้คุณบรรลุเป้าหมายอย่างมั่นใจ ด้วยเครือข่ายโรงงานผู้ผลิตซอฟเจล และทีมวิจัยที่มีประสบการณ์ในสารสกัดหลากหลายชนิด