ในยุคที่การแข่งขันทางการตลาดสูงขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ประกอบการจำนวนมากหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนา “สารสกัดจากธรรมชาติ” เพื่อต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ อาหารเสริม เครื่องสำอาง หรือสินค้าเกษตรแปรรูปที่เน้นมาตรฐานและคุณภาพ กระบวนการสกัดสาร (Extraction) จึงกลายเป็นหัวใจหลักในการต่อยอดงานวิจัยและธุรกิจ ซึ่งนอกจากการสกัดที่มีประสิทธิภาพแล้ว หนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้ก็คือ “การระเหยสาร (evaporating)” หรือ “การกำจัดตัวทำละลาย” ออกให้เหลือแต่สารสำคัญในรูปแบบเข้มข้น
เหตุผลที่ต้องใส่ใจกระบวนการระเหยสาร (Evaporating)
1. ส่งเสริมคุณภาพและความเข้มข้นของสารสกัด
หลังจากขั้นตอนการสกัดสารสำคัญ (Extraction) โดยใช้ตัวทำละลายไม่ว่าจะเป็น เอทานอล เมทานอล น้ำ หรือสารละลายอื่น ๆ ก็ตาม สิ่งที่ได้จะเป็นส่วนผสมที่ยังเต็มไปด้วยตัวทำละลายและสารประกอบทางธรรมชาติอื่น ๆ การระเหยสาร (evaporating) จึงเข้ามามีบทบาทในการขจัดตัวทำละลายออก เพื่อให้เหลือไว้เฉพาะ “สารสกัดที่เข้มข้นและบริสุทธิ์” มากที่สุด สามารถนำไปใช้พัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ได้หลากหลาย
2. ลดความเสี่ยงของสารตกค้าง (Residues)
หากไม่ระเหยสารอย่างเหมาะสม อาจเหลือตัวทำละลายตกค้างอยู่ในสารสกัด ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้บริโภคในระยะยาว ยิ่งในอุตสาหกรรมความงามและอาหารเสริม มาตรฐานด้านความปลอดภัยเป็นเรื่องที่เข้มงวด “บริการระเหยสาร” จึงเข้ามาช่วยตรวจสอบและควบคุมขั้นตอนการระเหยให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ลดโอกาสการปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย
หลักการเลือกใช้ตัวทำละลายและจุดเดือดของสารแต่ละชนิด (Principles of Solvent Selection & Boiling Points)
1.จุดเดือดของตัวทำละลาย
- เมทานอล (Methanol) [จุดเดือด 65°C]
มีขั้ว (Polar) สูง เหมาะสำหรับสกัดสารที่ละลายในขั้ว เช่น สารประกอบฟีนอลิกในพืช แต่อาจมีข้อจำกัดด้านความเป็นพิษ จึงต้องระเหยออกอย่างเคร่งครัด
- เอทานอล (Ethanol) [จุดเดือด 78°C]
เป็นตัวทำละลายยอดนิยมสำหรับการสกัดสมุนไพรและสารธรรมชาติ มีความเป็นพิษต่ำกว่าเมทานอล เมื่อเปรียบเทียบกัน และมีจุดเดือดไม่สูงมาก ทำให้การระเหยสารทำได้ง่าย
- เฮกเซน (Hexane) [จุดเดือด 68°C]
เหมาะสำหรับการสกัดสารประกอบที่ไม่มีขั้ว (Non-polar) เช่น ไขมันหรือเทอร์ปีนบางชนิด แต่ต้องระวังเรื่องความไวไฟและความเป็นพิษต่อสุขภาพ
- น้ำ (Water) [จุดเดือด 100°C]
แม้จะปลอดภัยในแง่การบริโภค แต่การสกัดด้วยน้ำอาจต้องใช้เวลานานและอุณหภูมิสูง จึงต้องวางแผนการระเหยให้ดี เพื่อป้องกันการสูญเสียหรือเสื่อมสภาพของสารออกฤทธิ์
2. ความเข้ากันได้ของสารประกอบ (Solute-Solvent Compatibility)
สารออกฤทธิ์บางชนิดละลายได้ดีในตัวทำละลายที่มีขั้ว (Polar) ขณะที่สารอีกกลุ่มอาจละลายได้ดีในตัวทำละลายที่ไม่มีขั้ว (Non-polar) จึงจำเป็นต้องวิเคราะห์คุณสมบัติทางเคมีของสารที่จะสกัด โดยคำนึงถึงขั้ว (Polarity) น้ำหนักโมเลกุล และความไวต่อปัจจัยภายนอก เช่น แสงและอุณหภูมิ
3. ข้อดีของการใช้ตัวทำละลายจุดเดือดต่ำ
ตัวทำละลายที่มีจุดเดือดต่ำ เช่น เมทานอลหรือเฮกเซน มักระเหยออกได้ง่ายและใช้พลังงานต่ำ ช่วยให้กระบวนการ evaporating ใช้ระยะเวลาสั้นลง ลดความเสี่ยงที่สารสำคัญจะถูกทำลายจากความร้อนสูง
4. ข้อควรระวังในการใช้ตัวทำละลายจุดเดือดสูง
หากจำเป็นต้องใช้เอทานอลหรือน้ำ ซึ่งมีจุดเดือดค่อนข้างสูง กระบวนการระเหยสารควรถูกออกแบบให้ควบคุมอุณหภูมิและความดันอย่างละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียคุณค่าของสารออกฤทธิ์
ด้วยเหตุนี้ การเลือกตัวทำละลายและการเข้าใจจุดเดือดของตัวทำละลายแต่ละชนิดจึงเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้สารสกัดที่มีความเข้มข้นและคุณภาพสูง ตอบโจทย์มาตรฐานของตลาดและความต้องการของผู้บริโภค
บริการระเหยสาร (Evaporating Service) ด้วยเครื่อง Rotary Evaporator ขนาด 1L, 20L และ 80L
เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้ประกอบการและหน่วยงานวิจัย เราได้เตรียม เครื่อง rotary evaporator และ เครื่องระเหยสาร ที่มีขนาดแตกต่างกัน ได้แก่ 1L, 20L และ 80L โดยแต่ละขนาดตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานและปริมาณวัตถุดิบที่แตกต่างกัน ดังนี้
- Rotary Evaporator ขนาด 1 L
- เหมาะสำหรับงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระดับแลป
ขนาด 1 ลิตรเป็นอุปกรณ์หลักในห้องปฏิบัติการ (Lab Scale) สำหรับนักวิจัยที่ต้องการทดลองสกัดสารในปริมาณน้อย เพื่อค้นหาสูตรหรือกระบวนการที่เหมาะสมก่อนขยายสเกล - ประหยัดวัตถุดิบและตัวทำละลาย
เมื่อใช้ปริมาณวัตถุดิบไม่มาก สามารถควบคุมปริมาณตัวทำละลายและเวลาที่ใช้ในการระเหยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านต้นทุน
- เหมาะสำหรับงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระดับแลป
- Rotary Evaporator ขนาด 20L
- ตอบโจทย์งานวิจัยกึ่งอุตสาหกรรม (Pilot Scale)
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขยายกำลังการผลิตจากระดับแลป หรือธุรกิจ SMEs ที่ต้องการทดสอบตลาดในปริมาณมากขึ้น เครื่องขนาด 20 ลิตรสามารถรองรับการระเหยได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ - รองรับสารสกัดหลากหลายชนิด
ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพร พืชเกษตร หรือสารออกฤทธิ์ชนิดอื่น ๆ สามารถปรับตั้งค่าอุณหภูมิและความดันได้ตามความเหมาะสมของแต่ละชนิด
- ตอบโจทย์งานวิจัยกึ่งอุตสาหกรรม (Pilot Scale)
- Rotary Evaporator ขนาด 80L
- รองรับการผลิตในระดับอุตสาหกรรม (Industrial Scale)
สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการปริมาณการสกัดสูง หรือมีแผนจะจำหน่ายในตลาดทั้งในและต่างประเทศ การมีเครื่องระเหยสารขนาด 80 ลิตร ช่วยให้สามารถดำเนินกระบวนการ evaporating ได้ในคราวละมาก ๆ ลดระยะเวลาในการผลิตโดยรวม - ปลอดภัยและได้มาตรฐานระดับสากล
ตัวเครื่องออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่เข้มงวด มีระบบควบคุมอุณหภูมิและความดันที่แม่นยำ ช่วยรักษาคุณภาพสารสกัด และได้ผลลัพธ์ที่คงที่ในทุกกระบวนการ
- รองรับการผลิตในระดับอุตสาหกรรม (Industrial Scale)
เหตุผลที่ควรเลือกใช้บริการระเหยสาร (Evaporating Service) ของ TIBD
1.ครบวงจรทั้งกระบวนการ
เราให้บริการตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ วางแผนสกัด ไปจนถึงการระเหยและการวิเคราะห์คุณภาพของสารสกัด ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลาค้นหาบริการหลายแห่งหรือกังวลว่าขั้นตอนใดจะตกหล่น
2. เครื่อง Rotary Evaporator หลากหลายขนาด
ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือต้องการผลิตเชิงพาณิชย์ เรามี เครื่องระเหยสาร และ เครื่อง rotary evaporator หลายสเกลรองรับ ตั้งแต่สเกลแลปไปจนถึงสเกลอุตสาหกรรม ช่วยปรับกระบวนการให้เหมาะสมกับปริมาณและชนิดของวัตถุดิบ
3. ทีมผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยมืออาชีพ
เรามีทีมนักวิทยาศาสตร์ นักวิเคราะห์ และผู้เชี่ยวชาญด้านการสกัดสารสำคัญ ที่พร้อมให้คำปรึกษาเชิงเทคนิค ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตัวทำละลาย การออกแบบกระบวนการ หรือการควบคุมคุณภาพ ให้ได้สารสกัดที่มีมาตรฐานสูงที่สุด
4. มาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยสูง
เราปฏิบัติตามมาตรฐานสากล เช่น ISO, GMP และยังมีเครือข่าย Lab พันธมิตรในการตรวจสอบความปลอดภัยของสารสกัด เพื่อให้สารสกัดที่ได้มีคุณภาพพร้อมออกสู่ตลาดได้อย่างมั่นใจ
5. ช่วยเพิ่มความคุ้มค่า
การใช้ เครื่อง rotary evaporator และการปรับเทคนิคให้เหมาะสมจะช่วยลดการสูญเสียสารออกฤทธิ์ ทำให้แข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การระเหยสารคือขั้นตอนสำคัญสู่ความสำเร็จของผลิตภัณฑ์สารสกัด
เมื่อพูดถึง “การพัฒนาสารสกัด” ให้มีคุณภาพสูงและเป็นมาตรฐานระดับสากล การระเหยสาร (evaporating) ถือเป็นกระบวนการที่ไม่ควรละเลย การเข้าใจหลักการของตัวทำละลายแต่ละชนิดและจุดเดือดที่แตกต่างกัน การวางแผนการสกัดที่ถูกต้อง รวมถึงการใช้เทคโนโลยี เครื่องระเหยสาร ที่เหมาะสมกับปริมาณงาน ล้วนเป็นปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จทั้งในเชิงธุรกิจและงานวิจัย
หากคุณสามารถเลือกและผสานเทคนิควิทยาศาสตร์เข้ากับการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ สารสกัดที่ได้จะมีความเข้มข้น มีความบริสุทธิ์สูง และพร้อมต่อยอดไปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริม เครื่องสำอาง หรือสินค้านวัตกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มในตลาดโลก
เราพร้อมให้คำปรึกษาตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกตัวทำละลาย ออกแบบกระบวนการสกัดที่เหมาะสมกับวัตถุดิบแต่ละชนิด วางแผนการผลิตได้ในหลากหลายสเกล และส่งมอบสารสกัดคุณภาพสูงอย่างครบวงจร คลิก